พรรณไม้กระเช้า

กล้วยไม้(Orchid)

ลักษณะ มีทั้งชนิดกล้วยไม้ดินและชนิดรากอากาศ ซึ่งนิยมปลูกเป็นไม้แขวนมีหลายสกุล เช่น
-สกุลเข็ม ดอกสีส้มอมเหลืองช่อยาว 15-20 ซม. มี 40-50ดอก/ช่อ ดอกย่อยขนาด 5 ซม. ออกดอกเดือน ก.พ.- เม.ย
-สกุลหวายหรือเอื้อง เช่นเอื้องข้าวเหนียวลิง หรือเอื้องดอกมะขาม มีดอกสีเขียวอ่อน น้ำตาล มีเส้นสีน้ำตาลเป็นแถบดอกย่อยขนาด 2.5 ซม.ออกดอกเดือน ก.ค.-พ.ย.
สภาพปลูกปลูกในกระเช้าหรือกาบมะพร้าว ถ้าปลูกในโรงเรือนควรพรางแสง 20-30 % หรือใต้ต้นไม้ที่ไม่ทึบ รดน้ำ 1-2 ครั้ง ให้ปุ๋ยเม็ดหรือปุ๋นเกล็ดเดือนละครั้ง
ขยายพันธุ์ แยกกอ

ไก่แดง (Columnea gloriosa Sprague “Variegata”)

ลักษณะ พืชอิงอาศัย ประดับดอก อายุหลายปี ลำต้นสีม่วงแดง ทอดเลื้อย ใบออกระนาบเดียวกัน รูปไข่แกมรีกว้างปลายมน ใบด่าง สีเขียวเข้ม-อ่อน แผ่นใบหนา ผิวใบ มีขนละเอียด คอดเดี่ยวสีแดงสด รูปปากเปิด ปากบนขนาดใหญ่ 3 กลีบติดกัน ปากล่าง ขนาดเล็ก 1 กลีบ โคนกลีบล่างมีสีเหลือง
ขยายพันธ์ ปักชำกิ่ง เลือกกิ่งที่ไม่ออกดอก
สภาพปลูก แสงแดดจัด (ไม่ได้รับแสงโดยตรง)ต้องการควมชื่นสูง ในสภาพอากาศเย็นให้ปุ๋ยที่มีK(โพแทสเซียม)สูง ทุก 10-14 วัน จะช่วยให้ดอกดีขึ้น

สายป่านดวงใจ(String of Heart, Sweetheart Vine)

ลักษณะ ไม้อวบน้ำ อายุหลายปี มีหัวใต้ดิน ลำต้นทอดเลื้อยขนาดเล็ก สีม่วงแดง ใบรูปหัวใจ พื้นใบสีเขียวเข้ม เส้นกลางใบและเส้นแขนงใบสีเงินหลังใบสีม่วงแดง ดอกเป็นหลอด โคนพองกลม ปลายแยก 5 แฉก ส่วนปลายมีสีม่วงน้ำตาลเข้ม
ขยายพันธุ์ ปักชำกิ่ง
สภาพปลูก ต้องการแสงแดดยามเช้าอย่างน้อย 4 ชั่วโมง ถ้าได้รับแสงไม่พอ สีใบจะซีด

โฮย่า (Hoya)

ลักษณะ ไม้เลื้อยอิงอาศัยเกาะต้นไม้ใหญ่ทุกส่วนของต้นมีน้ำยางสีขาวหรือใสใบเดี่ยว รูปร่างและขนาดแตกต่างกันในแต่ละชนิด เช่น รูปกลม รี หัวใจ เป็นต้น ดอกออกเป็นช่อแบบซี่ร่มช่อดอกมักห้อยลงเกิดตามข้อใบ ก้านช่อดอกมีอายุหลายปี เกิดดอกซ้ำได้หลายครั้ง ลักษณะเด่นของอก คือ มี กลีบดอกเป็นมันคล้ายขี้ผึ้ง จึงได้ ชื่อว่า Wax Plant
โฮย่าใบหัวใจSweet Heart Hoya
H. kerrii Craib
ใบรูปหัวใจ สีเขียว หรือด่างเขียว-ขาว ช่อดอกออกตามซอกใบ มี 10-20 ดอก/ช่อ ขนาด 0.8 ซม. กลีบดอกสีชมพูอมเขียว มีขนฟูคล้ายกำมะหยี่ เมื่อบาน กลีบดอก พลิกไปด้านหลัง มีกลิ่นหอมแรง ชอบที่ร่มและชื้น ออกดอกในฤดูฝน
ขยายพันธุ์ ปักชำกิ่ง ตัดให้มีข้อใบติดอยู่ 2-3 ข้อ (ไม่ควรใช้กิ่งอ่อนหรือกิ่งที่กำลังแตกใบใหม่)
สภาพปลูก แสงแดดส่องถึง วัสดุปลูกเก็บความชื้น ระบายน้ำและอากาศได้ดี ไม่ผุพังหรือยุบตัวเร็ว เช่น รากชายผ้าสีดาสับ กาบมะพร้าวสับ เป็นต้น

หูเสือ (Strawberry Geranium)

ลักษณะ ไม้ใบขนาดเล็กอายุหลายปี ลำต้นและใบมีขนสีขาวสากมือปกคลุม ใบรูปหัวใจ ขอบหยักซีฟัน ขนาด 2-3 ซม. ดอกขนาดเล็กสีขาว เมื่อต้นโตเต็มที่จะมีไหลหรือกิ่งแขนงเป็นเส้นสีแดงทอดยาวออกมาส่วนปลายมีต้นขนาดเล็กเกิดขึ้น เมื่อสัมผัสกับผิวดินมีรากแตกออกมา
ขยายพันธุ์ แยกกอ ปักชำไหล
สภาพปลูก แสงแดดรำไร ถ้าอากาศเย็น ใบจะมีขนาดใหญ่ สีเขียวเข้ม และออกดอกได้

เวอร์บีนา (Verbena)

เวอร์บีนายังมีชนิดพุ่ม (V.x hybrida Groenl.& Ruempl.) ใบรูปไข่แกมใบหอก ขอบจักฟันเลื่อย สีเขียวเข้ม”
ลักษณะ ไม้ดอก อายุหลายปีพุ่มสูง 20-40 ซม. ลำต้นค่อนข้างทอดเลื้อย มีขนนุ่มใบหยักเว้าลึกแบบขนนก ดอกออกเป็นช่อกระจุกที่ปลายยอด ดอกขนาด 0.5-0.8 ซม. กลีบดอกรูปหัวใจ 5 กลีบ มีสีชมพูและม่วง เมล็ดขนาดใหญ่ 380 เมล็ด /กรัม
ขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด โดยกลบเมล็ดบางๆ วางภาชนะในที่มืด เมล็ดงอกไม่สม่ำเสมอ เวลาเพาะ-ออกดอก 90 วัน
สภาพปลูก แสงแดดจัด-รำไร

ไอวี่ (Ivy)

ลักษณะ ไม้เลื้อย ขนาดเล็ก อายุหลายปี ใบเว้าเป็นแฉกคล้ายใบตำลึง มีสีเขียวด่างสีเขียว-ขาว หรือด่างเขียว-เหลือง แผ่นใบหนา มีหลายพันธ์
ขยายพันธุ์ ปักชำกิ่ง
สภาพปลูก แสงแดดรำไร ดิน ปลูกระบายน้ำดี บางพันธุ์ ชอบอากาศเย็น

โลบีเลีย (Edging Lobelia)

ลักษณะ ไม้ดอก อายุสั้นพุ่มสูง 15-30 ซม. ดอกออกเป็นช่อ ดอกย่อยมี 5 กลีบ ขนาด 1.5-2 ซม. กลีบบนขนาดเล็ก 2 กลีบ กลีบล่างขนาดใหญ่ 3 กลีบ สีขาว ชมพู-ม่วง โคนกลีบล่างมีจุดสีขาวหรือเหลืองแต้มเมล็ดมีขนาดเล็ก 35,000 เล็ด/กรัม
ขยายพันธ์ เพาะเมล็ด โดยไม่กลบเมล็ด วางภาชนะ เพาะในที่มีแสง เมล็ดงอกภายใน 14-20 วัน ย้ายปลูกหลังเพาะ 20-25 วัน เวลาเพาะ-ออกดอก 90 วัน
สภาพปลูก แสงแดดจัด อากาศเย็น ทรงพุ่มแน่นกะทัดรัด ใช้ปลูกประดับขอบแปลงได้ดี

สเตรปโตคาร์ปัส(Violet Nodding Bells)

ลักษณะ ไม้ดอก อายุหลายปี ใบรูปไข่แกมหัวใจ ดอกเป็นช่อ ช่อละ 6-12 ดอก ก้านดอกเส้นเล็กยาวยื่นชูออกมา ดอกสีม่วง กลางดอกสีขาว ขนาด 2-3 ซม. ปัจจุบันมีพันธุ์ลูกผสมหลายสี เช่น สีม่วงเข้ม-อ่อน ชมพู ขาว กลางดอกมีขีดสีม่วงเข้ม เมล็ดรูปทรงกระบอก มีขนาดเล็ก 37,000 เมล็ด/กรัม
ขยายพันธุ์ ปักชำกิ่ง และเพาะเมล็ด โดยไม่กลบเมล็ด วางภาชนะเพาะในที่มีแสงเพื่อช่วยในการงอกเมล็ดภายใน 15-30 วัน
สภาพปลูก อากาศเย็น แสงแดดในช่วงเช้า ไม่ควรให้รับแสงแดดจัดโดยตรง ดินปลูกควรมีระบายน้ำดี

ริบบิ้นชาลี (Mini Turtle Plant )

ลักษณะ ไม้ใบ อายุหลายปี ลำต้นอวบน้ำ แตกกิ่งก้านได้ดี เลื้อยได้ไกล 50-60 ซม. ใบรูปไข่ ขนาดเล็ก สีเขียว ใต้ใบสีม่วงแดง เป็นพืชโตเร็ว
ขยายพันธุ์ ปักชำกิ่ง
สภาพปลูก แสงแดดจัด ช่วยทำให้ข้องปล้องถี่ ทำใหใบเรียงเหลื่อมซ้อนกันเหมือนการเรียงกลีบของดอกกุหลาบ แต่ถ้าปลูกในที่แสงรำไร ข้อปล้องจะยืดห่างไม่สวยงาม เป็นไม้ทนแล้ง

เบบี้ซันโรส(Baby Sun Rose)

ปลูกประดับเป็นไม้คลุมดินได้ดี ทนต่อสภาพอากาศที่หนาวเย็นยาวนาน ต้องการแสงแดดเต็มวัน ดินปลูกระบายน้ำดี จะออกดอกตลอดปี
ลักษณะ ไม้ดอก อายุหลายปี ลำต้นและใบอวบน้ำ ใบรูปไข่แผ่นใบหนา สีเขียวอ่อนหรือด่างสีเขียวครีม ดอกคล้ายดอกแอสเตอร์ ออกตามซอกใบ ขนาด 1-1.5 ซม. กลีบดอกเป็นเส้นเล็กๆ มีสีครีม ส้ม ชมพู และแดง
ขยายพันธุ์ ปักชำกิ่ง และเพาะเมล็ด
สภาพปลูก แสงแดดรำไร-จัดดินปนทราย
หมายเหตุ ชนิดใบด่าง มีแผ่นใบสีเขียว ขอบสีครีม มีขนาดเล็กและโตช้ากว่าชนิดใบสีเขียว

ทิลแอนเซีย (Tillandsia)

ลักษณะ พืชรากอากาศ ใบออกเป็นกระจุกรูปแถบยาว สีเขียวอมเทา ปลายแหลมแผ่นใบหนา ดอกออกเป็นช่อยาว 7-10 ซม. กลีบประดับสีชมพูถึงสีแดงสด รูปรีซ้อนเหลื่อมกัน ดอกจริงมีขนาดเล็ก สีแดงถึงสีม่วงแทรกอยู่ในกลีบประดับ
ขยายพันธุ์ แยกกอ
สภาพปลูก แขวนตามคาคบไม้หรือกระเช้าลวดตามธรรมชาติพื้นที่ปลูก ควรมีอุณหภูมิระหว่างกลางวันกับกลางคืนแตกต่างกันค่อนข้างมาก ถ้าปลูกในโรงเรือนควรพรางแสง 20- 30 เปอร์เซ็นต์ ฉีดน้ำด้วยฟ็อกกี้ วันละ 2 ครั้ง และให้ปุ๋ยละลายน้ำฉีดพ่นสัปดาห์ละครั้ง

ดาห์เบิร์กเดซี่ (Dalhberg Daisy)

ลักษณะ ไม้ดอก อายุสั้นลำต้นทอดเลื้อยพุ่มสูง 15-20 ซม. ใบสีเขียวสด รูปแถบเป็นเส้นเรียวเล็ก ดอกสีเหลืองสด มีขนาดเล็ก 1.5-2 ซม. ออกดอกดก ติดเมล็ดเป็นกระจุกกลางดอก มีขนาดกลาง 8,000 เมล๊ด/กรัม
ขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด เมล็ดงอกง่าย โดยโรยเมล็ดในภาชนะเพาะกลบเมล็ดบางๆ เมล็ดงอกภายใน 10-20 วัน เวลาเพาะ-ออกดอก 60-90 วัน
สภาพปลูก แสงแดดจัด ดิน ปลูกระบายน้ำดี
เมื่อดอกเก่าเหี่ยว ควรหมั่นเด็ดทิ้ง เพื่อให้ต้นแตกยอดใหม่ จะช่วยให้มีอายุการออกดอกนานขึ้นดอกเหี่ยวที่เด็ดทิ้ง ควรเก็บเมล็ด พันธุ์ไว้ปลูกชุดต่อไป
ควรใช้บัวรดน้ำที่มีหัวฝอยละเอียด ถ้าฉีดน้ำแรง ต้นจะหักพับเสียหายได้

แนสเตอร์เตียม(Nasturtium)

ชื่อ Nasturtium แปลว่ากลิ่นแตะจมูก เนื่องจากดอกมีกลิ่นหอมแรง ดอกตูมนำมาดองรับประทาน ส่วนดอกบานและใบไปใช้รับประทานเป็นสลัดผักสดหรือประดับขอบจาน
ลักษณะ ไม้ดอก อายุสั้น ลำต้นทอดเลื้อยได้ไกล 30-45 ซม. ใบรูปค่อนข้างกลมก้นใบปิดคล้ายใบบัวขนาดเล็ก สีเขียว หรือ สีเขียวด่างขาว ดอกมีขนาด 4-5 ซม. กลีบดอกรูปซ้อน สีขาวครีม เหลือง ส้ม แดง กลีบบนสุดมีเดือยยาว ภายในมีต่อมน้ำหวานดอกมีกลิ่นหอมเมล็ดมีขนดใหญ่รูปไต ผิดเรียบหรือย่น 7-8 เมล็ด/กรัม
ขยายพันธุ์ปลูกเมล็ดลงดินได้เลย หรือเพาะเมล็ด โดยวางภาชนะเพาะในที่มืดเมล็ดงอกภายใน 7-18 วัน เวลาเพาะ-ออกดอก 60 วัน
สภาพปลูก แสงแดดจัด อากาศเย็น มักขึ้นในที่สูงตามดอยต่างๆ เจริญได้ดีในดินที่ขาดความอุดมสมบูรณ์ ระบายน้ำดี เช่น ดินร่วนปนทราย ไม่ควรให้ปุ๋ยบำรุงมาก เพราะถ้าดินสมบูรณ์ดี จะทำให้ใบดกหรือเฝือใบแต่ออกดอกน้อย

กำมะหยี่ม่วง (Purple Velvet Vine)

ลักษณะ ไม้ใบ อายุหลายปีพุ่มสูง 15-25 ซม. ลำต้น กิ่งก้าน และใบ มีขนสีม่วงแดงปกคลุม ใบสีเขียวอมเทา รูปรีแกมไข่ปลายแหลม ขอบจักซี่ฟันห่างๆ เส้นใบสีม่วง ช่อดอกออกเป็นกระจุกดอกสีเหลืองขนาดเล็ก
ขยายพันธุ์ ปักชำกิ่ง
สภาพปลูก แสงแดดรำไร ถ้าร่มเกินไป ใบจะมีสีซีดลง

ทิวเบอรัสบีโกเนีย (Tuberous Begonia)

เนื้อกลีบดอกเมื่อสะท้อนแสงแดดเหมือนเกล็ดคริสตัลระยิบระยับบางพันธุ์ดอกคล้ายกุหลาบหรือคามีเลีย
ลักษณะ ไม้ดอก อายุหลายปี มีหัวใต้ดิน ปลูกประดับทั้งดอกและใบ ลำต้นอวบน้ำใบมีหลายรูปแบบและสีสัน เช่น ใบ รูปหัวใจ รูปรี และรูปเบี้ยว แผ่นใบสีเขียวหรือสีม่วงแดง ดอกแยกเพศในต้นเดียวกัน มีทั้งดอกชั้นเดียวและดอกซ้อน สีขาว เหลือง ชมพู ส้ม แดง
ขยายพันธุ์ ปักชำกิ่งและใบ ปลูกหัวพันธุ์ เพาะเมล็ด
สภาพปลูก อากาศเย็น ดิน ปลูกระบายน้ำดี ชอบแสงค่อนข้างจัด
การเก็บหัวพันธ์ หลังการออกดอก ต้นจะโทรม รดน้ำเลี้ยงหัวใต้ดินให้โตอีกสักพัก งดน้ำให้ต้นเหี่ยว ขุดหัวมาพักเก็บในที่แห้งและมืด เพื่อใช้ปลูกครั้งต่อไป

กุหลาบฝอย ( portulacaceae sp.)

ลักษณะ ไม้ใบอวบน้ำ อายุหลายปี ล้ต้นทอดเลื้อยได้ไกล 30-45 ซม. ใบสีเขียว รูปทรงกระบอก ยาว 1.5-2 ซม. ปลายแหลม ออกเป็นกระจุกแน่นรอบข้อ
ขยายพันธุ์ ปักชำกิ่ง
สภาพปลูก แสงแดดรำไร-จัดถ้าร่มมากเกินไป ใบจะเหลืองและร่วง ดินปลูกระบายน้ำดี
ข้อสังเกต เป็นพืชสกุลเดียวกับแพรเซี่ยงไฮ้ มีใบคล้ายกัน แต่กุหลาบฝอยมักไม่ออกดอกให้เห็น

เจอราเนียมใบไอวี่ (Ivy Geranium)

ลักษณะ ไม้ดอก อายุหลายปี ทรงพุ่มทอดเลื้อย ใบรูปกลม ขอบหยักเว้าลึก เป็นแฉกคล้ายใบไอวี่ ดอกออกเป็นช่อ มีทั้งดอกชั้นเดียว และดอกซ้อน ก้านช่อดอกยาว ช่อดอกกลม แต่ไม่แน่นเท่าชนิดพุ่ม (P.X hortorum)ขนาดช่อดอก 10-15 :ซม. มีสีขาวชมพู ส้ม แดง ม่วง และสองสีในดอกเดียวกัน กลางดอกมีเส้นกลีบสีเข้มเมล็ดมีขนาดใหญ่ 135-300 เมล็ด/กรัม
ขยายพันธุ์ ปักชำกิ่ง และเพาะเมล็ด โดยกลบเมล็ดบางๆ เมล็ดงอกภายใน 7-10 วัน ย้ายปลูกหลังเพาะ 10-15 วัน เวลาเพาะ-ออกดอก 60-80 วัน
สภาพปลูก แสงแดดจัด อากาศเย็นช่วยให้ช่อดอกใหญ่ บานนานและสีสด ตัดแต่งทรงพุ่มหลังการออกดอก เมื่อเริ่มแตกตาดอก ให้ปุ๋ยที่มีโพแทสเซียม (K) สูง 2 ครั้ง/ครั้ง จนกระทั่งต้นหมดดอก
รดน้ำพอชื้น แต่ไม่แฉะ รดน้ำครั้งต่อไปเมื่อดินแห้ง และถ้าลดเฉะเกินไปจะทำเกิตโรคใบจุด

พีทูเนีย (Petunia)

ลักษณะ ไม้ดอก อายุสั้น พุ่มสูง 30-60 ซม. ดอกรูปแตร ขนาด 3-8 ซม. มีทั้งดอกชั้นเดียวและดอกซ้อน กลีบดอกบางมีหลายพันธุ์ ดอกสีขาว เหลือง ชมพู แดง ม่วง และ สองสีในดอกเดียวกัน เมล็ดขนาดเล็ก มี 9,000 -10,000 เล็ด/กรัม
ขยายพันธุ์ ปักชำกิ่งและเพาะเมล็ด ต้องการแสงในการงอกจึงไม่กลบเมล็ด เมล็ดงอกภายใน 10-25 วัน ย้ายปลูกหลัง เพาะ 40-60 วัน เวลาเพาะ-ออกดอก 90 วัน
สภาพปลูก แสงแดดจัด ลมไม่แรง ถ้าปลูกในที่ร่ม ต้นจะผอมและยึด ไม่กะทัดรัด ถ้าดินปลูกแฉะระบายน้ำไม่ดี ใบล่างจะเหลือง รดน้ำบริเวณโคนต้น อย่าให้โดนดอก มิเช่นนั้นจะทำให้กลีบช้ำและร่วงง่าย
พีทูเนีย แตกกอได้เอง แต่ถ้าเด็ดยอดที่แก่และดอกที่เหี่ยวออกบ้าง จะตกกอและออกดอกได้มากขึ้น ทำให้ต้นสวยน่าดูแลและมีระยะดอกบานนานขึ้นด้วย

กลับสู่เมนูหลัก Go to Home